SE Gym Showcase : Avautis

SET Social Impact มุ่งพัฒนา SE เข้มแข็ง สร้างพลังเปลี่ยนแปลงสังคม

“การมีลูกเป็นเด็กพิเศษ เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครคาดฝันว่าจะเกิดขึ้น พ่อแม่ต้องเข้าใจในตัวลูก แบรนด์ Avautis (เอวาทิส) มอบลมหายใจให้กับเด็กพิเศษ เราตั้งเป้าหมายต้องเป็นแบรนด์ระดับโลกให้ได้ เด็กพิเศษไม่ต้องมาหาเรา เราจะไปสร้างศูนย์ Avautis Community ไปสร้าง Infrastructure ไปสร้างการเรียนรู้ สร้างงานให้กับเค้าในพื้นที่” 

Avautis กิจการเพื่อการดูแลเด็กพิเศษในระยะยาว ส่งเสริมให้ช่วยเหลือตนเองได้ มีงานทำ ต้นแบบแห่งความยั่งยืน

SET Social Impact Platform  แนะนำ ธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) SE เข้มแข็งผ่านข้อมูลเชิงลึกอัพเดทการทำงานและบอกเล่าผ่าน founder ซึ่งถูกคัดเลือกเข้าร่วมรับการพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจโดย “โค้ช” ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ  6 รุ่น ในโครงการ SET Social Impact GYM วันนี้ผู้ประกอบการได้มีการทำงานสร้างธุรกิจให้เติบโตควบคู่เติมเต็มพลังให้กับสังคมไทยในหลากหลายมิติ

บริษัท เด็กพิเศษ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด  การรวมกลุ่มกันของผู้ปกครองเด็กพิเศษ ในพื้นที่ตำบลเหล อำเภอกะปง จังหวัดพังงา เพื่อประกอบธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ภายใต้แบรนด์ Avautis (เอวาทิส) ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (Skin Care) ให้เด็กพิเศษมีกิจการของตนเอง สร้างรายได้ พร้อมกับพัฒนาศักยภาพช่วยเหลือตนเองในการใช้ชีวิตประจำวัน ลดภาระในการพึ่งพาภาครัฐและสร้างประโยชน์แก่สังคม

คำว่า Avautis มาจากคำว่า AVA = ลมหายใจ  Autistic = เด็กพิเศษ เมื่อรวมกันจึงกลายเป็นคำว่า Avautis หมายถึงการมอบลมหายใจให้เด็กพิเศษ

ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเด็กพิเศษยังมีอยู่น้อย: ในอดีต กัมปนาท มหันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็กพิเศษ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด  ก็เหมือนกับอีกหลายคนที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัด เลือกที่จะเข้ามาเรียนหนังสือและทำงานในกรุงเทพ เป็นมนุษย์เงินเดือน แต่งงาน สร้างครอบครัว แต่จุดเปลี่ยนอยู่ตรงที่เมื่อ “น้องพฤกษ์” ลูกชายคนที่ 2 เกิดมา พร้อมกับการเป็นเด็กพิเศษ พัฒนาการไม่เป็นไปตามวัย

ในระยะแรกกัมปนาทก็เหมือนกับคนส่วนใหญ่ ที่ขาดความรู้ความเข้าใจ ผลักภาระการเลี้ยงดูเด็กพิเศษให้เป็นหน้าที่ของ หมอ พี่เลี้ยงและครูสอนพิเศษ ตลอดจนโรงเรียนเฉพาะทาง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำให้ “น้องพฤกษ์” มีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะแท้จริงแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุด คือพ่อแม่ที่จะต้องคอยโอบอุ้มดูแลให้เด็ก ๆ สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ไม่เป็นภาระกับใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเด็กเหล่านี้โตเป็นผู้ใหญ่ กัมปนาทและภรรยาจึงตัดสินใจออกจากงานที่กรุงเทพฯ แล้วย้ายครอบครัวกลับไปยังภูมิลำเนาเดิมที่จังหวัดพังงา

กว่าจะมาเป็นแบรนด์ Avautis และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว: บริษัท เด็กพิเศษ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เกิดจากการรวมตัวกันของ 23 ครอบครัวที่มีบุตรหลานเป็นเด็กพิเศษ ในพื้นที่อำเภอกะปง จังหวัดพังงา โดยเริ่มต้นจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องการเลี้ยงดู การปลอบโยนกันและกัน ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อให้เด็ก ๆ เติบโตอย่างมีคุณภาพ ก่อนจะต่อยอดทางความคิดมาสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อหารายได้ ซึ่งก่อนหน้ามีการลองผิดลองถูกทำมาแล้วหลายอย่าง ทั้งน้ำยาล้างจาน น้ำพริก หมอนยางพารา ก่อนจะมาลงตัวที่สบู่และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และพัฒนาแบรนด์ Avautis ขึ้นมา

ขณะเดียวกัน Avautis ยังมีรายได้หมุนเวียนจากงานด้านการเกษตร เช่น การเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ไข่ ปลูกผัก ตลอดจนการผลิตสบู่ แล้วนำผลผลิตที่ได้ไปจำหน่ายให้กับรีสอร์ทเจ้าประจำในจังหวัดพังงาที่เกื้อกูลเด็กพิเศษ นำเงินที่ได้มาเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของสมาชิก

อยากให้ธุรกิจเติบโตต้องได้รับการพัฒนาก่อน:  กรรมการผู้จัดการ Avautis เปรียบเทียบการเข้าอบรมพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เป็นเสมือนการติดกระดุมเม็ดแรกให้ตรง ซึ่งสำคัญมาก  เพราะจะมีผลต่ออนาคต สิ่งที่เคยคิดว่ารู้อยู่แล้ว อาจจะไม่ใช่ของจริง ถ้าต้องการให้ธุรกิจเติบโตจำเป็นต้องเข้ารับการพัฒนาก่อน ความรู้ที่ได้จากตลาดหลักทรัพย์ฯ แทบจะเป็นการพลิกชีวิตกิจการ Avautis ช่วยให้เข้าใจมากขึ้น ในเรื่องการตลาด การสร้างแบรนด์ ตลอดจนมุมมองที่มีต่อลูกค้าเป้าหมาย ได้เรียนรู้จากผู้ใหญ่ใจดีที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนจากผู้เข้ารับการอบรม

“คุณได้ของ น้องได้บ้าน” ระดมทุนสร้างบ้านให้เด็กพิเศษ: ในปี 2566 นี้ Avautis ได้ออกแคมเปญ “คุณได้ของ น้องได้บ้าน” ชักชวนให้ผู้ที่สนใจอุดหนุนสินค้าจาก Avautis เช่น เซรั่ม และครีมบำรุงผิวหน้า เพื่อนำรายได้ไปพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางประมาณ 1 ไร่ ให้เป็น ทั้งที่พักอาศัยสำหรับครอบครัวของเด็กพิเศษ อาคารเอนกประสงค์ ตลอดจนพื้นที่ทำกิจกรรม โดยนอกจากจะขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ แล้ว ยังจับมือกับพันธมิตรที่เป็นผู้ค้าส่งรายใหญ่ในการจัดจำหน่าย เพื่อให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้ที่ 40,000 ชิ้น ภายในสิ้นปีนี้ (2566) หรือคิดเป็นเงินส่วนแบ่งจากการขายสินค้าที่จะนำมาสร้างบ้านประมาณ 5 ล้านบาท

พัฒนา Avautis สู่แบรนด์ระดับโลก: Avautis ยังตั้งเป้าหมายในระยะยาวที่จะพัฒนาไปสู่แบรนด์ระดับโลก เป็นต้นแบบของศูนย์หรือชุมชนสำหรับเด็กพิเศษ โดยเบื้องต้นจะพัฒนา Avautis Community ที่จังหวัดพังงาให้มีความเข้มแข็ง จากนั้นก็พร้อมที่จะขยายเครือข่ายไปในจังหวัดต่าง ๆ โดยอาจเข้าไปร่วมลงทุนพัฒนาอาคารสถานที่ ระบบสาธารณูปโภค หรือแนะนำวิธีการหารายได้ เพื่อให้เกิดชุมชนที่เข้มแข็งสำหรับเด็กพิเศษ ให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ มีงานมีรายได้ สร้างประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป

ภาคธุรกิจ และผู้ที่สนใจสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน และธุรกิจเพื่อสังคมอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.setsocialimpact.com หรืออุดหนุนสินค้าของ Avautis ได้ที่ https://www.avautis.com/