Climate care เรื่องโลกร้อนที่ต้องรู้และแคร์ : 10 แนวปฏิบัติ ลดก๊าซเรือนกระจกในองค์กร

Climate care เรื่องโลกร้อนที่ต้องรู้และแคร์ : 10 แนวปฏิบัติ ลดก๊าซเรือนกระจกในองค์กร 

     การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาระดับโลก ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งทางตรงและทางอ้อมในหลายมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม สาเหตุหลักมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ เช่น การใช้ไฟฟ้า การใช้พลังงานในภาคขนส่งและอุตสาหกรรม การลดลงของพื้นที่สีเขียว และก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากขยะมูลฝอยและน้ำเสีย

 

     ปัญหาดังกล่าวทำให้ทุกประเทศตื่นตัวในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มุ่งบรรลุเป้าหมาย ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) เพื่อควบคุมอุณหภูมิของโลกไม่ให้ร้อนมากไปกว่านี้ การจะบรรลุเป้าหมายท้าทายขนาดนี้ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะหน่วยงาน องค์กร และภาคธุรกิจ ซึ่งมีศักยภาพและความพร้อมสูง เป็น keyword สำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ เริ่มต้นลดก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่าง ๆ ภายในองค์กร ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย และยังเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในอนาคต เราได้รวบรวม 10 วิธีปฏิบัติในการลดก๊าซเรือนกระจกที่หน่วยงาน องค์กรและบริษัทธุรกิจ สามารถทำได้ เอาไว้ให้แล้ว ดังนี้

1. สำรวจคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร : เป็นการสำรวจปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากการดำเนินงานต่าง ๆ ขององค์กร ทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นสิ่งแรกที่ต้องลงมือทำ เพื่อทราบแหล่งที่มาของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น จากการใช้ไฟฟ้า การขนส่ง ฯลฯ  ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกในลำดับถัดไป ใช้เป็นข้อมูลสำหรับการติดตาม ประเมินผล และปรับปรุงประสิทธิภาพ อีกทั้งการประเมินยังทำให้เห็นช่องทางในการประหยัดต้นทุนขององค์กรด้วย อาทิ การลดใช้พลังงานไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิง

2. ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน : เริ่มตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงานในองค์กร เช่น ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าและถอดปลั๊กทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเป็น     25 องศาเซลเซียส ฯลฯ เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน  ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ติดตั้งระบบอัตโนมัติสำหรับการควบคุมแสงสว่างและอุณหภูมิในอาคาร เพื่อลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น

3. เปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน : การลงทุนในพลังงานหมุนเวียนสามารถช่วยให้องค์กรลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล ลดต้นทุนด้านพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้จำนวนมาก องค์กรหลายแห่งเริ่มติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาอาคารหรือพื้นที่ว่าง เพื่อผลิตไฟฟ้าสำหรับการใช้งานภายในองค์กร บ้างนำไฟฟ้าที่ผลิตได้ขายให้กับหน่วยงานที่รับซื้อ การเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนถือเป็นวิธีที่เหมาะสม เพราะสร้างผลเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกันยังลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับ    บริษัทด้วย

4. ปรับปรุงอาคารเพื่อประหยัดพลังงาน : เป็นวิธีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีประสิทธิภาพ สามารถดำเนินการได้หลายวิธี ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพระบบทำความเย็นด้วยการปิดผนึกรอยรั่วของอากาศ ปรับปรุงฉนวนกันความร้อนและระบบระบายอากาศ เพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิภายในอาคารให้รู้สึกสบาย นำระบบประหยัดพลังงาน-ประหยัดน้ำมาใช้ ไปจนถึงวิธีง่าย ๆ อย่างการใช้แสงธรรมชาติเพื่อลดการใช้ไฟส่องสว่างให้น้อยลง

5. จัดการเดินทางและขนส่งอย่างยั่งยืน : ออกแบบ วางแผนการเดินทางและขนส่งสินค้าให้ประสิทธิภาพ เปลี่ยนมาใช้ยานพาหนะที่ปล่อยมลพิษต่ำ อาทิ รถยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งสินค้าหรือบุคลากร ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น นำกฎระเบียบที่เข้มงวดมาใช้ในการเดินทางติดต่อธุรกิจ แทนที่จะเดินทางด้วยเครื่องบินหรือรถยนต์ องค์กรสามารถเลือกใช้วิธีจัดประชุมออนไลน์แทน ส่งเสริมการใช้ car pool ทางเดียวกันไปด้วยกัน และสนับสนุนการใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนรถยนต์ส่วนตัว

6. จัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : องค์กรสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากห่วงโซ่อุปทานได้ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจากผู้ผลิต หรือ ผู้จัดหาวัตถุดิบ ที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เช่น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล ผลิตภัณฑ์ที่ประหยัดพลังงานและปล่อยคาร์บอนต่ำ

7. ลดขยะและของเสีย : การลดปริมาณขยะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมขององค์กร เช่น ลดการใช้กระดาษ หันมาใช้การส่งไฟล์งานในรูปแบบดิจิทัลแทน นำหลักการ 3Rs Reduce, Reuse, Recycle ลดการใช้ ใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ มาใช้ในการจัดการขยะ ส่งเสริมให้ เกิดวัฒนธรรมคัดแยกขยะในองค์กร และการนำขยะกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อาทิ การเปลี่ยนเศษอาหารให้เป็นปุ๋ย การใช้กระดาษสองหน้า

8. ปลูกฝังพฤติกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม: สร้างความเข้าใจกับบุคลากร เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ให้ความรู้เกี่ยวกับแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนและวิธีการลดก๊าซเรือนกระจกที่ทุกคนทำได้ อาจกำหนดไว้เป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายด้านความยั่งยืนขององค์กร และดัชนีชี้วัดควาสำเร็จ (KPI) เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตาม จนกลายเป็นค่านิยมขององค์กร

9. ปลูกต้นไม้ บริเวณโดยรอบสำนักงาน ช่วยในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

10. ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม และ ยกระดับการดำเนินงานให้ได้มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งของไทย และในระดับสากล เช่น ISO 14001, Green Industry, Green Office, Green Label, Carbon Footprint for Organization - CFO, Carbon Footprint for Product - CFP เป็นต้น

การลดก๊าซเรือนกระจกขององค์กรไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อการบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อองค์กรในหลาย ๆ ด้านด้วย ช่วยให้องค์กรประหยัดค่าใช้จ่าย จากการลดการใช้พลังงานและจากการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะองค์กรที่ดำเนินงานด้วยความยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ได้รับประโยชน์จากกระแสการตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการสำรวจคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และการลดก๊าซเรือนกระจกภายในองค์กร ยังเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับภาษีคาร์บอนและมาตรการกีดกันทางการค้า    ที่ใช้ประเด็นสิ่งแวดล้อมเป็นเงื่อนไข

ถึงเวลาแล้วที่ หน่วยงาน องค์กร และภาคธุรกิจ จะต้องร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการนำแนวทางสู่ความยั่งยืนไปใช้ เพื่อผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและองค์กรในระยะยาว

________
#Climatecare #เรื่องโลกร้อนที่ต้องรู้และแคร์ 

Reference

https://intellaquest.com/11-pragmatic-ways-for-an-organization-to-reduce-their-carbon-footprint/

https://climateseed.com/blog/what-can-my-company-do-to-reduce-its-carbon-emissions

https://www.bsigroup.com/th-TH/blog/step-for-reducing-ghg-emission-organization/

 

ผู้เข้าชม  582